วันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2563

ทำงานหนักจนหน้าหมอง ไม่ยอมนอนจนหน้าโทรม “Super Brightening Duo Signature Serum” เอาอยู่!!!


              สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกคน พบกับข้าวขิงคนเดิมเพิ่มเติมคือห่างหายไปนานกันอีกแล้วนะคะ กลับมาคราวนี้นำไอเทมเด็ดๆ มาฝากสาวๆ กันอีกอย่างแน่นอน ไอ่ที่ห่างหายไปนานคือไม่ใช่อะไรเลยค่า ยิ่งเป็นนักศึกษาจบใหม่ และต้องก้าวเข้าสู่ในช่วงวัยทำงานแล้วนั้น โปรเจคจบเอย ต้องเร่งหางานทำเอย ความเครียดเอย รุมเร้าเต็มที่เลยจ่ะพี่จ๋าาาา เรื่องความทรุมโทรมของใบหน้านิไม่ต้องพูดถึงเลย ความหมองของใบหน้านั้นมาแบบกระหน่ำซัมเมอร์เซลแน่นอน งานนี้ต้องหาของดีของเด็ดมาฟื้นฟูใบหน้าอย่างเร่งด่วนกันแล้ว ว่าแล้วก็ไปชมกันเลยดีกว่า ว่าข้าวขิงเลือกใช้อะไร? แล้วมันดียังไง? ทำไมถึงอยากนำบอกต่อ? ….Let Go!....

 




ไอเทมเด็ดที่ข้าวขิงพูดถึงนี้ คือเจ้า “Super Brightening Duo Signature Serum” จากแบรนด์ Keumyon เซรั่มหน้าใสส่งตรงจากเกาหลีนั่นเองค่า ตัวนี้เป็นสกินแคร์บำรุงผิวหน้า เนื้อเซรั่มเข้มข้น 2 สูตรในซองเดียว ช่วยฟื้นฟูผิวหมองคล้ำได้อย่างตรงจุด ด้วยส่วนผสมระดับเคาน์เตอร์แบรนด์ ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสและดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ซึ่งราคาอยู่ที่เพียงซองละ 49฿ ขนาด 8 ml หาซื้อโครตง่าย หาได้ใน 7-ELEVEN เลยยย


เนื้อเซรั่มจะเป็นสีใสแบบนี้เลยนะคะ เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่มีกลิ่นฉุนเลย ส่วนตัวแล้วเค้าจะใช้ทาอยู่ 2 เวลา คือช่วงเช้าก่อนแต่งหน้า และช่วงหลังอาบน้ำล้างหน้าเสร็จก่อนเข้านอน บอกเลยว่าตื่นมาทุกเช้า มองหน้าตัวเองในกระจกแล้วฟินสุดๆ


คุยกันถึงเรื่องความรู้สึกหลังใช้กันต่อเลยนะคะ ส่วนตัวขิงชอบมากๆ เลยนะ เพราะหลังจากที่ได้ลองใช้ดูไปแล้ว 1 ซอง คือมันจะเห็นได้ชัดเลยว่า หน้าของเราจะดูกระจ่างใสมากขึ้น จากที่หมองคล้ำทรุดโทรม ทั้งจากความเครียด การนอนน้อย หรือแม้แต่การทำงานหนัก ผิวหน้าแลได้รับการฟื้นฟูทำให้ผิวดูสุขภาพดีขึ้นมากๆ สมแล้วกับที่เป็นเซรั่มหน้าใสส่งตรงจากเกาหลี แถมยิ่งมีส่วนผสมระดับเคาน์เตอร์แบรนด์แล้วนั้น ยิ่งทำให้การดูแลของเขาล้ำลึกและเห็นผลไวอย่างหน้าทึ่ง!!

หากจะให้คะแนนเจ้าไอเทมเด็ดตัวนี้แล้วหล่ะก็ ข้าวขิงให้แบบไม่คิดนานที่ 10 เต็ม 10 ไปเลยจ้า เพราะนอกจากจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจแล้ว ยังหาซื้อได้ง่าย แถมราคาสบายกระเป๋าอีกด้วย งานนี้ใครอยากหน้าใสไม่หมองคล้ำ ต้องโดนนะบอกเลย!


 

อ่านมาถึงตรงนี้ ข้าวขิงก็หวังว่าบทความของข้าวขิงจะเป็นประโยชน์แก่ทุกคนที่มาอ่านกันได้ไม่มากก็น้อยนะคะ ขอบคุณที่ติดตามรับชม ไว้เจอกันใหม่ในโอกาสหน้า บ๊ายบายยยย

#กึมยอน #Keumyon #เซรั่มสูตรเคาน์เตอร์แบรนด์ #นำเข้าจากเกาหลี







วันเสาร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2563

โบกมือลาหน้าลอกหน้าแห้ง รอยสิว รอยแผลเป็น!!! ด้วย “Smooth E Cream”


มีเพื่อนๆ คนไหนเป็นแบบเราบ้าง เป็นสิวแต่ละทีมือไม้ช่างอยู่ไม่สุข แคะโน่น แกะนี่ บีบนั่นจนติดเป็นนิสัย ทำไปด้วยความเมามัน และแล้วก็ได้ผลที่ตามมา คือ มีรอยแผลเป็นเต็มหน้า รอยสิวเก่ายังไม่หาย รอยสิวใหม่ก็มากวนใจอีก ไหนจะจุดด่างดำ หน้าแห้งหน้าเหี่ยว โอ้ยยยยย อะไรจะเยอะแยะขนาดนี้ ตามหาสารพัดครีมมาใช้ก็ไม่ดีขึ้นเลย คาดว่าชาตินี้คงไม่มีผิวหน้าสุขภาพดีแบบคนอื่นเขาแล้ว หยุด!! หยุด!! หยุดความคิดแล้วอ่านทางนี้เลยค่ะ เพราะวันนี้ข้าวขิงคนเดิม ได้ไปขุดคุ้ยเคล็ดลับดีๆ สำหรับคนที่อยากบอกลารอยสิว รอยแผลแบบเริ่ดๆ และไม่เจ็บตัวมาบอกกัน ตามไปดูกันเล้ยยยย
ซึ่งตัวที่ว่านี้นั่นก็คือ Smooth E Cream ตัวนี้นี่แหละค่าาา


Smooth E Cream ตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า เวชสำอาจลดเลือนรอยสิว จุดด่างดำ รอยแผลเป็นที่ได้รับรางวัล @Cosme ประเทศญี่ปุ่น  และมียอดขายอันดับ 1 ในร้านขายยาประเทศไทย (สุดจัด!!) ตัวนี้เหมาะสำหรับผู้ใช้ทุกสภาพผิวเลยนะคะ คนแพ้ง่ายก็ใช้ได้ แนะนำเลย จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ลดริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น รอยสิว แผลเป็นสิว แผลเป็น จุดด่างดำ พร้อมรักษาและฟื้นฟูเซลล์ผิวใหม่ ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ 100 % อย่าง Centella Essence (Cica), Alllum Cepa Extract, Natural Alpha-Tocopherol, Jojoba Oil รวมไปถึงว่านหางจระเข้อีกด้วย ดีต่อใจมากๆ

                ราคาจะอยู่ที่ 125฿ ขนาด 10 g ใช้ได้นานเป็นเดือนเลยทีเดียว (เหมือนจะมีหลายขนาดนะคะ ลองๆ หาดูกันเด้อ)



เนื้อครีมของ Smooth E Cream จะค่อนข้างเข้มข้น และละเอียดขึ้นสุดดด แต่เกลี่ยนง่ายไม่เหนียวเหนอะ เพราะเป็นเนื้อครีมชั้นสูงจากต่างประเทศ ซึมซาบโครตแจ๋ว ล้ำลึกเข้าสู่ผิวชั้นในสุดที่เกิดปัญหา มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ฉุน ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และเบาสบายทุกครั้งที่ทา


วิธีใช้ก็ง่ายมากๆ เพียงบีบครีมมานิดหน่อยไม่ต้องเยอะ เพราะเนื้อครีมมันเข้มข้นอยู่แล้ว จากนั้นก็วอร์มเนื้อครีมสักพักที่ปลายนิ้ว เพื่อให้การซึมซาบที่ดีเยี่ยมมากยิ่งขึ้น แล้วค่อยๆ สัมผัสกดเบาๆ ทั่วใบหน้า หรือจะพอกตรงจุดที่มีปัญหา ไม่ว่าจะรอยสิวรอยแผลก็ย่อมได้นะคะ (มันใช้ได้กับทั้งทั้งหน้าและตัวนะคะ เผื่อบางคนมีแผลเป็นที่ลำตัว ก็เอาไปใช้ได้เด้อนางเด้อ)


หากถามถึงความรู้สึกหลังใช้นะคะ ส่วนตัวขิงชอบมากๆ เลยนะ เพราะหลังจากที่ใช้ได้ไปประมาณ เกือบเดือน มันจะเห็นได้ชัดเลยว่า ว่าหน้าของเราชุ่มชื่นขึ้น ดูสุขภาพดีขึ้นมากๆ ค่ะ เรื่องแพ้คือหมดห่วงไปได้เลย เพราะเขาเป็นเวชสำอาง หน้าไม่แสบไม่แดงแน่นอน ที่ชอบสุดๆ ก็น่าจะเป็นเรื่องการรักษารอยแผลหลังการเป็นสิว และเรื่องลดจุดด่างดำนี่แหละ ที่เห็นผลได้แบบชัดเจนเลย ยิ่งตอนเป็นสิวแล้วเราทาตัวนี้เข้าไปนะ มันช่วยให้เกิดรอยสิวน้อยลง แถมทาไปเรื่อยๆ รอยสิวหายไปเองเลยจ้า เริ่ดสุด!!


มาถึงช่วงเวลาแห่งการให้คะแนนเจ้า Smooth E Cream แล้วหล่ะค่ะ เอาแบบจัดให้ไปเลยค่ะ 10 เต็ม 10! เพราะอย่างที่บอกไปนะคะ ว่าปัญหาของขิง คือต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับหน้า ลดรอยสิว และรอยแผลบนหน้า ที่สำคัญต้องใช้ได้แบบไม่มีการแพ้ใดๆ ซึ่งตัวนี้มันตอบโจทย์มากๆ เลย แถมยังหาซื้อได้ง่าย ราคาสบายกระเป๋า ใช้แล้วรู้สึกปลอดภัยไม่เป็นอันตราย เชื่อแล้วจ้าาาา ว่ารอยแผล เป็นได้ ก็หายได้นาจาาาาาา


อ่านมาถึงตรงนี้ ข้าวขิงก็หวังว่าบทความของข้าวขิงจะเป็นประโยชน์แก่ทุกคนที่มาอ่านกันได้ไม่มากก็น้อยนะคะ ขอบคุณที่ติดตามรับชม ไว้เจอไอเทมเด็ดๆ เดี๋ยวมาจัดให้อีกอย่างไม่รีรอแน่นอนค่า บ๊ายบายยยย


วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2562

มีงบหลักร้อย อยากได้กันแดดคุณภาพไม่น้อยกว่าหลักพัน!! Joliena Plus SPF 50+ PA++++ ตอบโจทย์ได้!!!



สวัสดีค่ะทุกคนนน พบกับข้าวขิงคนเดิมเพิ่มเติมคืออยากมารีวิวก็มา ไม่อยากรีวิวก็ไม่มา เพราะเหตุผลคือ ขี้เกียจค่ะ (ได้เหรอ? ได้สิ ได้อยู่ละ ได้ก็คือได้แหละ 555) โธ่ววเอ้ยยย~ ไม่ช่ายยยย อันที่จริงคือ เพราะยังไม่มีสินค้าตัวไหนที่โดนใจ และปลุกพลังให้อยากออกมาเขียนรีวิวก็เท่านั้นเองจ้าาา บวกกับเศรษฐกิจช่วงนี้ย่ำแย่ เงินเดือนก็แหมมม อย่างกับเศษตังค์ มันเลยไม่มีกะจิตกะใจใดๆ ไปซื้อของใหม่ๆ มาใช้เลยยยย แต่ก็อย่างว่าแหล่ะค่ะ ถึงเงินเดือนจะน้อยนิด แต่จริตของการใช้ชีวิตเราก็ยังต้องดำเนินอยู่
ยิ่งสาวๆ อย่างเราสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน นั่นก็คือการแต่งหน้านั่นเองค่ะ (ให้หน้าสดออกไป อิชั้นยอมตายดีกว่าเจ้าค่ะ) แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะอยากแต่งหน้าหนา รองพื้นไหลเยิ้มรับแสงแดดอันร้อนแรงของประเทศไทยทุกๆวันถูกต้องไหมคะ และที่สำคัญผู้ (ผู้ชายนั่นแหละ) สมัยนี้เขาไม่ได้มาถูกอกถูกใจผู้หญิงแต่งหน้าหนา แล้วบอกว่านี่แหละหน้าธรรมชาติกันหรอกค่ะ
พูดสั้นๆก็คือ ยุคนี้ใครผิวสุขภาพดีกว่า คนนั้นมงลงไปเลยจ้าาา วันนี้ขิงเลยจะหยิบไอเทมเด็ดๆ จากโต๊ะเครื่องแป้งของตัวเองมารีวิวให้สาวๆรับชมกัน ซึ่งตีมการรีวิวของเราในวันนี้ คือสินค้าที่มีราคาหลักร้อย แต่คุณภาพของนางไม่น้อยหน้า กว่าสินค้าราคาหลักพัน!! เลย ถ้าพร้อมแล้ว เราไปรู้จักกับไอเทมสุดเจ๋งตัวนี้กันเลยค่าาาา


สินค้าที่ขิงจะมาพูดถึงในวันนี้ เป็นไอเทมประเภทที่สาวๆ ทุกคนจำเป็นต้องมีอยู่แล้ว นั่นก็คือ “ครีมกันแดด” นั่นเองค่ะ แต่ในปัจจุบัน ครีมกันแดดก็มีหลากหลายแบรนด์มาก จนอาจทำให้เราสับสนงงงวยซื้อถูกบ้างผิดบ้าง (ล่าสุดครีมกันแดดเต็มโต๊ะเครื่องแป้งจ้า ใช้ไม่เคยหมดหลอด เพราะไม่รอดสักตัว) ซึ่งตัวที่เราจะมาพูดกันในวันนี้ มีชื่อว่า ครีมกันแดด Joliena Plus SPF 50+ PA++++” นั่นเองค่า (แบรนด์นี้ชื่อเสียงไม่ธรรมดาเลยนะ หลายๆคนรู้จักกันในนามแบรนด์ครีมรกแกะ) รูปร่างหน้าตาของครีมกันแดดโจลิน่าดูผิวเผินๆ รู้สึกเหมือนหลอดยาอ่ะแกรรร~ไม่รู้ดิ ฉันเห็นแล้วฉันรู้สึกว่าฉันใช้แล้วฉันไม่ตายแน่นอนอ่ะ มันให้ฟิลแบบปลอดภัยไร้สาร ดูสะอาดสะอ้านอะไรแบบเนี้ยยย (เหมือนจะรู้สึกเอง 555) ซึ่งขิงไปตำเจ้าตัวนี้มา จากเพจ Joliena Plus Official ในราคา 590 บาท (เหมือนจะได้ตอนช่วงโปร ราคาเต็มน่าจะ 800 เศษๆ โดยประมาณ) ขนาด 25 g แต่ใช้นานเป็นเดือนๆ



เจ้าตัวนี้มีความต่างจากกันแดดทั่วไปที่ขิงเคยใช้มาตรงที่มันมีเนื้อครีมเป็นเบสโลชั่น ไม่ใช่ซิลิโคนลื่นๆ ที่ทำให้เกิดการอุดตันอ่ะ มันเลยทาง่าย ไม่ฉุนเคมี ไม่มันเยิ้ม ไม่เหนอะหนะหรือหนักผิว ตัวนี้ทาแล้วหน้าเนียน คุมมัน ผ่องๆ แบบคนผิวสุขภาพดีอ่ะแกรรรร~ ถ้าเน้นเรื่องงานโชว์ผิวตัวนี้ตอบโจทย์มาก เพราะเนื้อมันเบาสบายถึงขั้นที่เราสามารถทาทับเมคอัพได้ระหว่างวันได้ หรือทาเป็นเบสก่อนลงเมคอัพได้เลยนะ (บอกเลยว่าผู้ชายโหวตตต555) ส่วนสารสกัดของเจ้าตัวนี้มาจากธรรมชาติทั้งนั้นเลยนะ เท่าที่รู้ที่ดูมามันรวมสารสกัดขั้นสุดถึง 6 ตัว ขิงจะแจกแจงให้เห็นกันชัดๆ ว่ามันมีอะไรกันบ้าง ตามนี้….
1. Encapsulation Technology ตัวนี้ถ้าเป็นครีมกันแดดตามท้องตลาดทั่วไปจะไม่มีให้นะจ๊ะ เพราะมันทำให้ล็อกประสิทธิภาพของสารสกัด และช่วยบำรุงฟื้นฟูผิวได้ดียิ่งขึ้น
2. วิตามิน E สารสกัดยอดฮิตที่จะลดการโดดแสงแดดทำลายผิว พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้น
3. ดอกคาโมมายล์ (Chamomile) ตัวนี้ยอมรับตรงๆ ว่าไม่รู้จัก555 แต่ไปหาข้อมูลในกูเกิลมาคร่าวๆ มันจะช่วยเรื่องของการทำให้ผิวเราแข็งแรง ลดการแพ้ การอักเสบ
4. Alpine Willowherb ดอกไม้สีชมพูแห่งเทือกเขาแอลป์ (อันนี้ไม่เวอร์จ้า รู้จักอยู่จ้าาาา555) เรื่องผิวมัน เป็นสิว รูขุมขนกว้าง ตัวนี้เอาอยู่
5. คาคาดูพลัม (Kakadu Plum) ตัวนี้เป็นผลไม้พื้นเมืองของทางตอนเหนือของทวีปออสเตรเลีย ถือเป็นพืชที่มีวิตามินซีสูงที่สุดในโลกเลย มันช่วยลดรอยต่างๆ และปกป้องผิวเราจาก UV ได้อย่างยอดเยี่ยม
6. บีทรูธ (Beet Root) หรือผักกาดฝรั่ง ตัวนี้ช่วยเรื่องผิวอิ่มน้ำ ชุ่มชื่น ไม่แห้งกร้านเป็นขุย มันเลยทำให้เวลาเราทากันแดดตัวนี้ไป ผิวหน้าจึงดูสุขภาพดีขั้นสุด

ขอบคุณภาพจาก Joliena Plus Official ด้วยค่าา

มาแล้วจ้า รูปฆ่าตัวเองมาแล้วจ้าาา555 เอาภาพก่อนทากันแดดมาให้ชม มันก็จะประมาณนี้

เนื้อครีมเก๋กู๊ดมากๆ เลยค่ะ ทาง่าย เกลี่ยง่ายมาก ไม่เหนียวเหนอะหนะเลย

หลังทาก็จะชุ่มฉ่ำ ออร่า เนียนกริบประมาณนี้ ดูเผยผิวสุขภาพดีไปอี๊กกก!

มาต่อกันด้วยเรื่องผลลัพธ์หลังการใช้งาน (จริงๆ ไม่น่าพูดเรื่องนี้ละ เพราะถ้าบอกว่าหยิบมาจากโต๊ะเครื่องแป้งตัวเองแล้ว แสดงว่าใช้อยู่ตลอด555) ส่วนตัวแล้วขิงชอบมากๆนะคะ ทั้งเรื่องของกลิ่นที่ไม่ฉุน เนื้อครีมที่บางเบา การกักเก็บความชุ่มชื่น ทุกอย่างมันโอเคมากๆเลยนะ เป็นกันแดดอีกหนึ่งตัวที่กล้ารับประกันได้ว่า ไม่เคยคิดว่าจะสามารถหาซื้อได้ในราคาไม่ถึงหลักพันจริงๆ ที่สำคัญคือเมื่อใช้แล้ว ไม่แสบไม่คัน ไม่มีผื่นขึ้นหน้า (ปกติเป็นคนแพ้ง่ายเด้อ) แต่หากต้องให้คะแนนก็ขอให้อย่างภาคภูมิใจที่ 10/10 ไปเลยจ้าาา
อย่างที่บอกเลย ว่าขิงซื้อใช้อยู่แล้ว และเห็นว่ามันโอเคเลยนำมารีวิวต่อ ดังนั้นสรุปเลยว่า สาวๆ คนไหนที่ชอบแต่งหน้าแบบผิวสุขภาพดี หน้าใส คุมมัน กันเหงื่อ เบื่อหน้าอุดตัน แถมราคาจับต้องได้ง่ายๆ  สไตล์คนเงินเดือนน้อยแต่อยากใช้ของสูง ขิงแนะนำให้ไปตำมาใช้โดยเร็วเลยค่ะ รับรองว่าถูกอกถูกใจ ใช่แน่น้อนนนน (แนะนำว่าถ้าใช้คู่กับครีมรกแกะ Joliena Plus ด้วยจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพที่ดีขึ้นเด้อ) 


วันนี้ขิงต้องขอตัวลาไปก่อนแล้วนะคะ หวังว่ารีวิวนี้คงเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆที่กำลังตามหาครีมกันแดดคู่ใจอยู่ และหากเพื่อนๆเจอสินค้าตัวไหนเด็ด ตัวไหนอยากให้ลองรีวิวให้ดู บอกข้าวขิงสุดปังคนนี้ได้เลยจ้า

**********ไว้เจอกันใหม่เด้อพี่น้องเด้อ บ๊ายบายยยย********

วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2562

เผยเคล็ดลับผิวหน้ากระจ่างใส ไม่มีปั๊ว "July Vitamin U Concentrate Night Repair Facial Mask"

      เพื่อนๆคนไหนกำลังมีปัญหาแบบนี้บ้างคะ?? ผิวหน้าไม่กระจ่างใส รูขุมขนกว้าง ทั้งรอยดำ รอยแดง รอยสิว ผิวแห้ง โอ้ยยยยย อะไรจะเยอะแยะขนาดนี้ หาสารพัดครีมมาใช้ก็ไม่ดีขึ้นเลย ชาตินี้คงไม่มีสุขภาพดีแบบคนอื่นเขาแล้ว หยุด!! หยุด!! หยุดความคิดแล้วอ่านทางนี้เลยค่ะ เพราะวันนี้มีเคล็ดลับดีๆสำหรับหลายๆคนที่อยากมีผิวหน้าชุ่มชื้น สุขภาพดีแบบสาวเกาหลีมาฝากกัน รับรองได้เลยว่าเริ่ดมากๆ ตามไปดูกันเล้ยยยย



       ก่อนอื่นเราต้องบอกก่อนนะคะ ว่าเราก็เป็นคนหนึ่งที่มีผิวหน้าคล้ำๆ ไม่กระจ่าง ดูแห้งมาก แห้งเหมือนไม่มีน้ำกักเก็บอยู่ในผิวเลย ถึงจะเป็นข้อดีที่มันไม่เกิดสิวง่าย แต่เข้าใจมั๊ยอ่ะว่าเห้ยยยย หน้ามันดูเหี่ยวๆ ไม่เต่งตึง ไม่กระชับเลย แถมยังมีพวกความกว้างของรูขุมขน รอยดำ รอยแดง รอยสิวเก่าๆ ที่คอยกวนใจอีก คือเวลาแฟนมาหยิกแก้มเล่นเขาก็จะทักตลอดเลยนะคะว่า หน้าดูแก่จัง ดูเหี่ยวๆ ไม่เต่งตึงยังไงไม่รู้ อื้อหืออออ ตอนนั้นคือหัวใจแตกสลายเหมือนจะหลุดออกมาเลยค่ะ 5555 คือเข้าใจป่ะว่าแบบถ้าคนอื่นทัก มันก็ไม่รู้สึกเท่าแฟนตัวเองทักจริงไหม?? ทีนี้ก็เลยคิดจะลองหาครีมมาใช้ค่ะ อันไหนที่เขาว่าดี คือเคยลองหมด แต่ด้วยความที่เราเป็นคนผิวบาง และแพ้ง่าย ทำให้ใช้อะไรก็แสบหน้า หน้าแดงไปหมด เลยต้องหยุดใช้ไปตามๆ กัน จนล่าสุดนี้เราไปเจออยู่ตัวหนึ่งค่ะ ยอมรับว่าตัวนี้ยังไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้จักนะคะ เพราะนำเข้าจากเกาหลีเลย เราก็เลยตัดสินใจซื้อมาลอง ตัวที่ว่านั่นก็คือ July Vitamin U Concentrate Night Repair Facial Mask ตัวนี้นี่แหละค่าาา


      July Vitamin U Concentrate Night Repair Facial Mask ตัวนี้เป็นสลิปปิ้งมาร์คบำรุงผิวหน้านะคะ เป็นตัวที่นำเข้าจากเกาหลี ได้รับ อ.ย. ทั้งในประเทศไทยและเกาหลีเลย ใช้ได้กับทุกสภาพผิว เพราะมีสารสกัดของวิตามินยู และส่วนผสมธรรมชาติจากเกาหลี 12 ชนิด (โครตจะพรีเมี่ยม) สรรพคุณของตัวนี้มันจะช่วยเพิ่มความออร่ากระจ่างใสให้กับใบหน้าของเรา ลดรอยเอิงเอยต่างๆ กระชับรูขุมขน เพิ่มความชุ่มชื่นแก่ผิว พร้อมยังช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิวอีกด้วย ราคาจะอยู่ที่ 1,290฿ ขนาด 50 g. ใช้ได้ได้นานเป็นเดือนๆ เลย (ล่าสุดแอบเห็นว่าในแฟนเพจที่ไปซื้อมาเขามีโปรส่งฟรีลงทะเบียนนะ ลองไปหากันเอง)


      เนื้อมาร์คจะลื่นๆ ใสๆ แอบขุ่นแบบที่เห็นในรูปเลยนะคะ เนื้อเนียน เกลี่ยง่าย ซึมไวมากกก กลิ่นจะไม่หอมและก็ไม่ฉุน ใช้มาร์คหน้าของเราก่อนเข้านอนนะคะ (ก่อนซื้อเห็นคำโฆษณาว่า พิสูจน์ผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรก แหมมมม ลองดู!! )


      ต่อมาถึงช่วงรายงานความรู้สึกหลังใช้แล้วค่ะ ส่วนตัวเราชอบมากๆเลยนะ เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกดั่งคำโฆษณาเลย หน้าของเราจะนุ่มขึ้น ใสขึ้น ชุ่มชื่นขึ้นมากๆค่ะ เรื่องแพ้คือหมดห่วงไปได้เลย เพราะสูตรของเขาอ่อนโยนมาก หน้าไม่แสบไม่แดงแน่นอน ที่ชอบสุดๆ ส่วนเรื่องของรอยสิว และริ้วรอย ยังไม่เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้นะคะ แต่พอใช้ได้ไปประมาณครึ่งกระปุกก็จะเริ่มเห็นละค่า ว่ามันจางลง รูขุมขนเล็กลงจริง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราว่ามันก็แล้วแต่คนด้วย เพราะทุกสภาพผิวล้วนแตกต่างกันและจึงใช้เวลาในการเห็นผลที่ต่างกันเช่นกัน หากจะให้เราให้คะแนนนะคะ เราให้ไปเลย 9 เต็ม 10 ไปเล้ยยย ส่วนคะแนนที่หายไป ก็น่าจะเป็นเรื่องของราคาค่ะ ที่บางคนที่ไม่ได้มีกำลังซื้อมาก อาจจะมองว่าแพงไป แต่สำหรับเราแล้ว ของดียิงตรงจากเกาหลีขนาดนี้ ใครได้ไปโครตคุ้มมมม ฟันเฟิร์ม!!


      อ่านมาถึงตรงนี้ เราก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ทุกคนที่มาอ่านนะคะ เพื่อนๆ คนไหนที่สงสัยตรงไหน ก็สอบถามเราได้น้าาาา ไว้คราวหน้าเจอสินค้าดีๆ ไม่มีลืมมาแนะนำแน่นอนค่าาา บ๊ายบายยยย

วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2561

"Smooth White Plus" ไอเทมลดปัญหาหน้าสวยแต่กลิ่นตัวแรง

       สวัสดีค่ะสาวๆ ชาวบล็อกเกอร์ทุกคน ห่างหายกันไปนาน สำหรับการรีวิวสินค้าดีๆ ให้ทุกคนได้ลองใช้ วันนี้กลับมากับไอเทมตัวใหม่ ที่รับรองได้เลยว่า คุ้มค่ากับการหายไปแน่นอนจ้า ^_______^

       ยุคนี้ 4.0 แล้วนะ ผู้หญิงสมัยใหม่ สวยอย่างเดียวไม่ได้ กลิ่นกายก็เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจนิสนุง บางคนหน้าสวยมาแต่ไกล แต่พกกลิ่นตัวโชยมาด้วยแบบนี้ก็ไม่ไหวน้าาาา บางคนอยากใส่เสื้อแขนกุดเกาะอก โชว์แขนสวยๆ บ้าง แต่ติดตรงที่หนังไก่กะต๊ากกะต๊าก ตรงวงแขนนี่แหละ ปัญหาระดับชาติของสาวๆเลย วันนี้ขิงเลยมานำเสนอไอเทมสุดปัง ที่สาวๆควรมีมาให้เป็นตัวเลือกในการดูแลตัวเองนะจ๊ะ จะเป็นตัวไหนตามไปดูกันเลย



      เจ้าตัวนี้มีชื่อว่า Smooth White Plus ครีมสำหรับบำรุงผิวใต้จั๊กแร้ของเรานี่เลย เขาบอกว่ามันมีส่วนผสมของสารสกัดจากพืชพรรณธรรมชาติ พวกชะเอมเทศ เมล็ดองุ่น น้ำมันงาขาว เซราไมด์เข้มข้น มันจะซึมง่ายไม่เหนียวเหนอะหนะ ทำให้ผิวใต้วงแขนเรา เนียนนุ่ม กระจ่างใส ไม่ทิ้งคราบเหลือง ปัญหาตุ่มไก่หนังไก่ลดลง แถมยังช่วยระงับกลิ่นกายได้ ซึ่งหน้าตาของมันก็ตามรูปเลย ราคาอยู่ที่หลอดละ 239 บาทขนาด 10 กรัม (มีขายที่ บิวเที่ยม สาขาสยาม , ซีคอน ศรีนครินทร์ ที่อื่นไม่แน่ใจน้าา ลองหาดูเน้อ)


      ด้านในจะเป็นหลอดประมาณนี้ น่ารักจิ้มลิ้มมาก


ส่วนเนื้อครีมเป็นสีขาวเนียนนุ่มแบบนี้ แอบบอกก่อนว่ากลิ่นโคตรหอม คือหอมแบบหอมมาก
กลุ่นไม่ฉุนเลย

       วิธีการใช้ก็ง่ายมากค่า ทาเหมือนครีมนั่นแหละ แต่ย้ายจากหน้ามาตรงที่จั๊กแร้ของเรา ใช้ได้ทุกครั้งหลังอาบน้ำเลยนะ กลิ่นหอมติดทนตลอดวัน ไม่รู้สึกแสบหรือว่าแพ้ใดๆ


      ส่วนตัวแล้วหลังใช้มาได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ถือว่าโอเคมากๆ (เลยรีบมารีวิวตั้งแต่ยังใช้ไม่หมดหลอด 555) เพราะมันช่วยระงับกลิ่นกาย ลดเหงื่อได้จริงจนสังเกตุได้ แถมยังกระจ่างใสขึ้นด้วย คาดว่าถ้าใช้ไปนานกว่านี้ จะช่วยลดตุ่มไก่หนังไก่ต่างๆ ได้อย่างแน่นอน (ลองดูรีวิวอื่นๆ ในเน็ตน้าา เยอะจริงเยอะสิ่ง) แต่มาถึงตอนนี้เชื่อเหอะว่าอาจมีหลายๆ คนที่มองว่าราคาอาจจะดูแพงไปหรือเปล่า ซึ่งสำหรับข้อนี้ขิงว่าถ้าใครที่ยังไม่สามารถหารายได้ด้วยตัวเองได้ อย่างน้องๆ นักเรียนนักศึกษา ราคาก็อาจจะสูงไปนิดนึงแหละ แต่ถ้าเทียบกับผลลัพธ์ที่ตามมาคือคุ้มกับคุ้มแน่นอนค่าาาา


      ยังไงก็หวังว่าการรีวิวในวันนี้จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับสาวๆ ที่ยังไม่กล้าใส่เสื้อกล้าม แขนกุด เกาะอก โชว์แขนน้าาาา มั่นใจได้เลยว่าหากได้ลองใช้แล้ว ความมั่นใจจะกลับมา และจะติดใจแบบขิงนี้แหละ 555 สำหรับคราวหน้า ขิงจะมารีวิวไอเทมตัวไหนให้สาวๆ ได้ไปจับจอง ต้องติดตามกันไว้ดีๆ นะคะ สำหรับวันนี้ขิงต้องขอตัวลาไปก่อนน้าาา ไว้พบกันใหม่ บ๊ายบายยย..

วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

รีวิวเซตคู่สุดปัง The Organic Jasmine Tea Cleansing Soap และ Rose Serum Repair

       สวัสดีค่ะทุกคนนนนน พบกับข้าวขิงที่มาพร้อมกับการรีวิวสินค้าคุณภาพ ผลลัพธ์ถูกใจกันอีกแล้วนะคะ สำหรับครั้งนี้ต้องบอกก่อนเลยว่าขอเอาใจหนุ่มสาวที่มีปัญหา เกี่ยวกับผิวหน้าสักหน่อย ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้าแห้ง ไม่ชุ่มชื้น เป็นสิว หน้าติดสเตอรอยด์ หรือแม้แต่เป็นรอยแผลเป็นต่างๆ หากใครกำลังพบเจอปัญหาเหล่านี้อยู่ ฟังทางนี้เลยค่าาา เพราะขิงมีไอเทมตัวใหม่ ที่จะมารีวิวให้กับเพื่อนๆได้ลองใช้ดู หรืออาจจะไว้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจของคนที่กำลังจะอยากซื้อพอดี ถ้าพร้อมแล้วเรามาเริ่มกันเล้ยยยย




        รีวิวคราวนี้ขิงขอมาเป็นเซตคู่เลยนะคะ นั่นก็คือสบู่และตัวเซรั่ม ที่มีชื่อว่าสบู่มาร์คเซรั่ม The Organic Jasmine Tea Cleansing Soap และ Rose Serum Repair Booster นั่นเองค่า รูปร่างหน้าตาของมันก็เหมือนในรูปเลย น่ารักจิ้มลิ้ม ดูสะอาดสบายตา น่าลองใช้ทีเดียวเลยค่ะ ซึ่งขิงได้สบู่กับเซรั่มตัวนี้มาจากแฟนเพจ http://www.facebook.com/Soulcareofficial ในราคา 548 (สบู่ 249 บาท ขนาด 70g และเซรั่ม 299 บาท ขนาด 10g) 




      เรามาดูด้านใน กันบ้างดีกว่านะคะ อื้มหืออออ เรียบหรูดูแพงมากกกก ตัวสบู่จะเป็นก้อนกลมกลมๆสีเขียวอ่อน กลิ่นหอมชวนใช้ มีถุงใส่สบู่ใบเล็กๆแถมให้ ส่วนเซรั่มจะมีรูปร่างคล้ายคล้ายกับเข็มฉีดยาขนาดใหญ่ ถือได้ว่ามีความคิดสร้างสรรค์ ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ให้ดูน่าใช้มากๆเลยทีเดียว
      
สำหรับส่วนผสมหลักๆของเจ้า2ตัวนี้เท่าที่รู้มาก็จะเน้นสารสกัดจากธรรมชาติ ประกอบไปด้วย Rose Placenta Extract เซรั่มรกกุหลาบ สกัดจากพืชธรรมชาติ Natural Skincare ว่านหางจระเข้ แล้วก็มะเขือเทศ ซึ่งมันจะช่วยในเรื่องของการสร้างความแข็งแรงให้กับผิวหน้า ให้ผิวหน้าดูชุ่มชื้น รูขุมขนกระชับ รอยแผลเป็นต่างๆดูจางลงหรือแม้แต่ในกลุ่มของผู้ที่ติดสารสเตอรอยด์หากใช้ตัวนี้ไปนานๆ เขาบอกว่าจะสามารถ ทำให้หายขาดได้ (สรรพคุณล้นหลามจริงๆ) เอาหล่ะคะ~ พูดมาขนาดนี้เรามาเริ่มใช้กันเลยดีกว่า วิธีใช้ก็ง่ายมากๆ แค่เหมือนล้างหน้ากับสบู่ธรรมดาๆทั่วไป แล้วก็ทาเซรั่มบำรุงหลังล้างเสร็จได้เลยค่า


     เนื้อเซรั่มเขาจะบางเบา ใสๆ ไม่มีกลิ่น จริงๆสามารถใช้ร่วมหรือผสมกับครีมที่เราใช้อยู่ได้ปกติเลยนะคะ แต่ขิงอยากเห็นผลไวๆ ขอใช้แบบเพรียวๆเลยละกันน้าาา 



        มาต่อกันด้วยเรื่องผลลัพธ์หลังการใช้งาน เช้า-ก่อนนอน ตลอด1สัปดาห์ดีกว่าค่ะ ส่วนตัวแล้วขิงชอบมากๆนะคะ ทั้งเรื่องของกลิ่นสบู่ที่ละมุนฟองนุ่ม ล้างหน่าได้หมดจดแม้แต่งหน้าอยู่ก็ตาม ที่สำคัญคือไม่แสบไม่คัน ไม่ผื่นเลย (ปกติเป็นคนแพ้ง่ายนะคะ) ส่วนเซรั่มก็เนื้อบางไม่มีกลิ่นฉุน เกลี่ยง่ายซึมไว ไม่เหนี่ยวเหนอะหนะเลย แถมบรรจุภัณฑ์ยังน่ารักใช้ง่าย ทำออกมาได้ดีมากๆ สำหรับประสิทธิผลก็ค่อนข้างโอเคนะคะ หน้าดูนุ่มและชุ่มชื้นขึ้น รอยสิวที่ไม่ชัดมากค่อยๆจางจริง (หากใช้นานกว่านี้คิดว่าน่าจะช่วยอะไรได้อีกเยอะเลย) ส่วนเรื่องปัญหาของสิวหรือการตอดสเตอรอยด์ขิงคงพิสูจน์ให้ไม่ได้นะคะ เพราะเป็นคนหน้าแห้งไม่มีสิวอยู่แล้ว
       สรุปเลยดีกว่าค่ะ ถ้าหากให้ขิงให้คะแนนก็ขอให้ 9/10 ไปเลยค่า อย่างที่บอกว่าส่วนตัวค่อนข้างชอบและมันช่วยในเรื่องของการให้ผิวหน้าชุ่มชื้น ดูแข็งแรงมากๆเลยทีเดียว ส่วนคะแนนที่หายไปขิงคิดว่า เป็นเรื่องของปริมาณของมันที่อาจจะดูน้อย ในราคาประมาณนี้ ซึ่งหลายๆคนที่ยังไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง อาจจะมองว่าแพงไปนิดนุง แต่ขิงรับประกันได้เลยค่าาา ว่าหากได้ซื้อมาลองใช้ดู จะไม่พบกับความผิดหวังแน่นอน
       วันนี้ขิงต้องขอตัวลาไปก่อนแล้วนะคะ หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อคนที่อ่านอยู่ได้ไม่มากก็น้อยน้าาา หากเพื่อนๆเจอสอนค้าเด็ดๆตัวไหน ที่อยากให้รีวิวดู ก็ส่งสารมาบอกกันได้นะคะ ไว้ว่างๆจัดให้แน่นอนเล้ยยยย ตอนนี้ขอตัวลาไปแล้วไว้เจอกันใหม่ บ๊ายบายยยย




วันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2561

รีวิวแป้งพับกันน้ำตัวใหม่ CEA SKIN

          เฮลโลววว หนุ่มๆสาวๆ สวัสดีปีใหม่กันถ้วนหน้าเลยนะคะ เป็นยังไงกันบ้าง เคาท์ดาวที่ผ่านมาหลายๆคนคงเต็มเหนี่ยวกันไปเลยที่เดียวเชียว ดื่มนั่นดื่มนี่ โยกไปโยกมา แลกของขวัญอะไรก็ว่ากันไป นี่ล่าสุดเมื่อปีใหม่ที่ผ่านมา ขิงก็ได้ของขวัญจากเพื่อนมาอยู่ชิ้นหนึ่งนะคะ ทีแรกก็แปลกใจว่าของขวัญอะไรของมัน อ่านไปอ่านมาถึงรู้ว่า อ๋อ มันคือแป้งพับนี่เอง ซึ่งระดับการโม้ของเพื่อนนี่ก็ใช่ย่อยนะ โฆษณาสรรพคุณของแป้งพับอย่างโน้นอย่างนี้ บอกว่าตัวนี้ใช้แล้วดี กำลังฮิต ลองมาแล้วกับตัว ก็เลยซื้อมาเป็นของขวัญปีใหม่ให้ เพื่อจะชอบ อ่าาา~ ไหนๆก็ได้มาแบบฟรีๆไม่เสียตังค์ละ งั้นขิงก็ขอเอามาลองรีวิวดูเลยละกัน เผื่อจะเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจของอีกหลายๆคน ที่กำลังมองหาแป้งพับหรือกำลังจะซื้อตัวนี้ไปใช้เนอะ




          ไอ่เจ้าแป้งพับที่กล่าวมานี้ มันมีชื่อเสียงเรียงนามว่า CEA SKIN แป้งซีสกิน Cover Smooth Oil Control Powder SPF15 PA++ ตัวนี่แหละค่ะ (ชื่อยาวไปอี๊กกกก) รูปร่างหน้าตามันก็เหมือนที่เห็นในรูปเลย คือจริงๆแอบแปลกใจเล็กน้อยถึงปานกลาง ว่าแป้งพับอะไรกล่องใหญ่ขนาดนี้5555 แต่พอลองแกะดูด้านใน โอ้ววว~แม่เจ้า แพ็คเกจดูแพงไปอี๊กกก สาบานสิว่านี่แป้งพับ หรูอะไรปานนั้นหล่ะหนู (ตอนหลังแอบไปสืบราคามา เพิ่งรู้ว่าเพื่อนได้ราคาโปรโมชั่น 690฿ แต่จริงๆราคาเต็มมัน 1,380฿) ปริมาณสุทธิของมันก็อยู่ที่ 12 กรัม และมีเลขที่จดแจ้งอะไรให้เสร็จสรรพเรียบร้อย



           หากพูดถึงคุณสมบัติของเจ้าตัวนี้แล้ว จากการที่ไปหาขอมูลในเว็บมา เขาบอกว่ามันเป็นนวัตกรรมสุดล้ำของ CEA SKIN FEEL NATURAL POWDER ที่สามารถเติมแป้งได้ในขณะที่หน้าเปียก (จริงดิ O_o) ถือแป้งเนื้อเนียนแห่งปี 2018 เนื้อแป้งจะบางเบา ไม่อุดตันผิว ปกปิดได้ดีเยี่ยม ติดผิวได้เนียนถึงขีดสุด มีส่วนผสม  Astaxanthin สารสะกัดจากสาหร่ายแดง และ Vitamin-E ที่ชาวยควบคุมความมันได้มากถึง 3 เท่า ผิวหน้าเรียบเนียน กระจ่างใส ดูเป็นธรรมชาติ พร้อมปกป้องผิวจากแสงแดด SPF15 PA++ กันน้ำ กันเหงื่อ 100% (อะไรจะทำอะไรได้เยอะขนาดน้านนน ดีงามมม)



              ต่อเรามาดูเนื้อแป้งมันบ้างนะคะ (ชอบแพ็คเกจง่าาา แลดูเป็นไฮโซเวอร์555) จะเป็นแป้งผสมรองพื้นที่มีเนื้ออณูขนาดเล็ก เนื้อเนียน ละเอียด บางเบา ตามข้อมูลที่เจอคือมีทั้งหมด 3 เฉดสีให้เลือก
- C1 Natural White (ผิวขาว) : เหมาะกับผิวขาว และ ผิวปานกลาง (เป็นเฉดสีที่ขิงได้มา)
- C2 Natural Medium (ผิวกลาง) : เหมาะกับผิวขาวเหลือง
- C3 Natural Dark (ผิวสองสี) : เหมาะกับคนผิวสองสี  ผิวแทน ผิวสีน้ำผึ้ง และผิวคล้ำ



ม่ะ!! สาธยายกันมาเยอะละ เรามาลองใช้กันเลยดีกว่าค่ะ ว่ามันจะเป็นยังไงบ้าง ลุยยยยย >[]<


บางทีก็แอบตกใตหน้าสดตัวเอง5555 (สดไปไหมเธอ)


ตามภาพเลยนะคะ ที่ทาครึ่งหน้าให้ดูก่อนเพราะจะได้เห็นชัดเจนถึงความแตกต่างเนอะ (สังเกตเห็นได้ว่าข้างขวาที่ทาจะเนียนกว่า)


            นี่ทาเต็มหน้าไปละนะคะ เดี๋ยวเราลองสมมุติเหตุการณ์ดูนะ ว่าแบบสงกรานต์ ฝนตก แดดออกเหงื่อไหล ดูว่าถ้าหน้าเราเปียกน้ำอยู่ แล้วตบแป้งลงไปละเป็นยังไง จะทาได้แบบที่เขาบอกหรือเปล่า


อู้วววว ทาได้จริงด้วยง่ะ ผ่านไป10นาที หน้าก็ยังเนียนกริบไม่เป็นคราบเลย เป็นไปได้ไงเนี่ยยย (ล้ำไปอีกเลยหนู ขุ่นพระ!)


            มาสรุปกันเลยดีกว่าค่ะ ความรู้สึกหลังลองใช้ ส่วนตัวชอบทุกอย่างเลยนะคะ โดยเรื่องการปกปิด และความเรียบเนียนกลืนไปกับผิว คือเขาทำออกมาได้ดีมาก เรื่องกันน้ำก็เริ่ด เติมแป้งทับตอนหน้าเปียกก็ได้ แถมเนื้อมันไม่หนักหน้าไม่วอกไม่ลอยอ่ะ ส่วนเรื่องการคุมความมันนี่ไม่แน่ใจนะคะ เพราะขิงเป็นคนผิวแห้ง เลยพิสูจน์ข้อนี้ไม่ได้เนอะ ถ้าให้คะแนนก็ 9/10 ไปเล้ยยย เพราะอย่างที่บอกว่าชอบทุกอย่าง แต่ที่หักไป 1 คะแนน เพราะส่วนตัวคิดว่าราคามันค่อนข้างสูงนะ ถ้าเป็นวัยเด็กหรือวัยเรียนที่ยังไม่มีรายได้เป็นของตัวเองก็อาจจะซื้อไม่ไหว แต่ถ้าซื้อไหวบอกเลยว่าคุ้มมาก
          อ่านมาจนถึงตรงนี้ก็หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่เข้ามาอ่านได้ไม่มากก็น้อยนะคะ ขอบคุณที่ติดตามรับชม อยากให้รีวิวตัวไหนให้อีก ส่งข่าวกันมาได้เลยค่ะ เดี๋ยวว่างๆจัดให้แน่นอนเด้อนางเด้อออออ