วันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เผยเคล็ดลับผิวหน้าชุ่มชื่น ไม่มีสิวอุดตัน " Emu oil for skin "


       เพื่อนๆคนไหนกำลังมีปัญหาแบบนี้บ้างคะ?? หน้าแห้งเวอร์ ไม่ชุ่มชื้น เครื่องสำอางไม่ติดหน้า ทั้งริ้วรอย รอยสิว หน้าเหี่ยว โอ้ยยยยย อะไรจะเยอะแยะขนาดนี้ หาสารพัดครีมมาใช้ก็ไม่ดีขึ้นเลย ชาตินี้คงไม่มีสุขภาพดีแบบคนอื่นเขาแล้ว หยุด!! หยุด!! หยุดความคิดแล้วอ่านทางนี้เลยค่ะ เพราะวันนี้มีเคล็ดลับดีๆสำหรับหลายๆคนที่อยากมีผิวหน้าชุ่มชื้น สุขภาพดีมาฝากกัน รับรองได้เลยว่าเริ่ดมากๆ ตามไปดูกันเล้ยยยย

        ก่อนอื่นเราต้องบอกก่อนนะคะ ว่าเราก็เป็นคนหนึ่งที่มีผิวหน้าที่แห้งมาก แห้งเหมือนไม่มีน้ำกักเก็บอยู่ในผิวเลย ถึงจะเป็นข้อดีที่มันไม่เกิดสิวง่าย แต่เข้าใจมั๊ยอ่ะว่าเห้ยยยย หน้ามันดูเหี่ยวๆ ไม่เต่งตึง ไม่กระชับเลย แถมยังมีพวกรอยสิวเก่าๆ ที่คอยกวนใจอีก คือเวลาแฟนมาหยิกแก้มเล่นเขาก็จะทักตลอดเลยนะคะว่า หน้าดูแก่จัง ดูเหี่ยวๆ ไม่เต่งตึงยังไงไม่รู้ อื้อหืออออ ตอนนั้นคือหัวใจแตกสลายเหมือนจะหลุดออกมาเลยค่ะ 5555 คือเข้าใจป่ะว่าแบบถ้าคนอื่นทัก มันก็ไม่รู้สึกเท่าแฟนตัวเองทักจริงไหม?? ทีนี้ก็เลยคิดจะลองหาครีมมาใช้ค่ะ อันไหนที่เขาว่าดี คือเคยลองหมด แต่ด้วยความที่เราเป็นคนผิวบาง และแพ้ง่าย ทำให้ใช้อะไรก็แสบหน้า หน้าแดงไปหมด เลยต้องหยุดใช้ไปตามๆกัน จนล่าสุดนี้เราไปเจออยู่ตัวหนึ่งค่ะ ยอมรับว่าตัวนี้ยังไงเคยเห็นรู้จักใช้นะคะ แต่รีวิวเขาเยอะมาก ทั้งในและต่างประเทศ เราก็เลยตัดสินใจซื้อมาลอง ตัวที่ว่านั่นก็คือ Emu oil for skin ตัวนี้นี่แหละค่าาา



          น้ำมันอีมู ตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้านะคะ ได้ทำการทดลองและเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลกว่าใช้แล้วไม่เป็นสิว เหมาะสำหรับผิวแห้ง เป็นสิว แพ้ง่าย ระคายเคืองง่าย มันจะช่วยลดการอักเสบ เพิ่มการบำรุงผิวโดยไม่ทำให้อุดตัน เพราะอุดมไปด้วย linolenic acid และ oleic acid ที่ช่วยลดการอักเสบ ช่วยกักเก็บน้ำใต้ผิวทำให้ผิวชุ่มชื่นโดยไม่จำเป็นต้องใช้ moisturizer อื่น นอกจากนี้มันยังสามารถกระตุ้นต่อมเส้นผมให้เพิ่มจำนวนมากขึ้นและกระตุ้นเจริญเติบโตของเส้นผมได้อีกด้วย (สามารถนำมาทาผมได้เลย)
ราคาจะอยู่ที่ 550฿ ขนาด 30 ml. ใช้ได้ประมาณ 2-3 เดือน


ลักษณะขวดของมันจะเป็นขวดปั๊มเล็กๆแบบนี้นะคะ



             เนื้อครีมจะลื่นๆคล้ายๆน้ำมัน แบบที่เห็นในรูปเลยนะคะ เวลาใช้จะเกลี่ยง่าย ซึมไว มีกลิ่นของน้ำมันนิดหน่อย มันจะไม่หอมและก็ไม่ฉุน แต่ก็ไม่ทำให้หน้ามันเยิ้ม ตัวนี้จะใช้บำรุงหน้าก่อนเข้านอน เป็นประจำทุกวันค่ะ


          หากถามถึงความรู้สึกหลังใช้นะคะ ส่วนตัวเราชอบมากๆเลยนะ เพราะหลังจากที่ใช้ได้ไปประมาณ 2 อาทิตย์กว่าๆ มันจะเห็นได้ชัดเลยว่า หน้าของเราจะนุ่มขึ้น เด้งขึ้น ชุ่มชื่นขึ้นมากๆค่ะ เรื่องสิว เรื่องแพ้คือหมดห่วงไปได้เลย เพราะสูตรของเขาอ่อนโยนมาก หน้าไม่แสบไม่แดงแน่นอน ที่ชอบสุดๆก็น่าจะเป็นเรื่องเครื่องสำอางติดหน้านี่แหละค่ะเห็นผลได้แบบชัดเจนเลย  ส่วนเรื่องของรอยสิว และริ้วรอย ยังไม่เห็นผลได้ชัดเจนเท่าไหร่สำหรับระยะเวลาแค่นี้นะคะ เพราะทุกสภาพผิวล้วนแตกต่างกันและจึงใช้เวลาในการเห็นผล

         ถ้าจะให้เราให้คะแนนนะคะ เราให้ไปเลย 9 เต็ม 10 อย่างที่บอกไปนะคะ ว่าเราใช้เพื่อต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับหน้าเรา ซึ่งตัวนี้มันตอบโจทย์มากๆเลย แต่ราคาของมันค่อนข้างสูงไปนิสนุง บวกกับที่มีกลิ่นของน้ำมันเล็กน้อย เพราะตัวนี้จะเป็นน้ำมัน 100% เราเลยไม่ค่อยชอบในส่วนของกลิ่นเท่าไหร่คะ ส่วนเรื่องการบำรุง ดูแล ฟื้นฟูผิวหน้า อันนี้โอเคหมดเลยยยย


        อ่านมาถึงตรงนี้ เราก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ทุกคนที่มาอ่านนะคะ เพื่อนๆคนไหนที่สงสัยตรงไหน ก็สอบถามเราได้นะ ส่วนคนไหนที่สนใจ เดี๋ยวเราทิ้งช่องทางที่เราซื้อไว้ให้เลย ขอบคุณค่า ^^

วันพฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เผยเคล็ดลับหุ่นดี ไม่อดอาหาร เผาผลาญดีเยี่ยม!! Happy Burn



      เพื่อนๆคนไหนกำลังมีปัญหาแบบนี้บ้างคะ?? กินจุ น้ำหนักขึ้น ทานยาลดกี่ตัวกี่ตัวก็ไม่ยอมลด ขี้เกียจออกกำลังกาย ไม่อยากอดอาหาร โอ้ยยยย แล้วแบบนี้เมื่อไหร่จะผอมมมมม หยุด!! หยุด!! หยุด!! หยุดความคิดนี้แล้วมาอ่านทางนี้เลยค่าาา วันนี้มีเคล็ดลับดีๆสำหรับหลายๆคนที่คิดว่าจะไม่ผอมมาฝากกัน รับรองได้เลยว่าเริ่ดมากๆ ตามไปดูกันเล้ยยยย

     ก่อนอื่นเราต้องบอกก่อนนะคะ ว่าเราก็เป็นคนหนึ่งที่จริงๆไม่ได้เป็นคนอ้วน หรือน้ำหนักเยอะแต่อย่างใด แต่ด้วยความที่เป็นคนกินจุ กินเยอะ และไม่ชอบออกกำลังกาย บวกกับการที่ช่วงนั้นมีแฟนด้วย เลยทำให้ไม่ค่อยสนใจอะไรเรื่องน้ำหนักเท่าไหร่ แต่พอระยะเวลาผ่านไป แฟนก็เริ่มทักค่ะว่า เบาๆบ้างก็ได้นะกินโน่นนี่อ่ะ ดูหน้าดูตัวดิ เริ่มบานออกบานออกแล้ว ตอนนั้นคือหัวใจแตกสลายเหมือนจะหลุดออกมาเลยค่ะ 5555 คือเข้าใจป่ะว่าแบบถ้าคนอื่นทัก มันก็ไม่รู้สึกเท่าแฟนตัวเองทักจริงไหม?? ทีนี้ก็เลยคิดจะลองกินให้น้อยลงค่ะ ละก็ออกกำลังกาย คือทำไปได้ไม่ถึงอาทิตย์อ่ะ ก็ขี้เกียจละ มันไม่ชินที่ต้องมาคุมอาหารโน่นนี่นั่น วุ่นวายยยย ทีนี้ก็เลยมานั่งคิดว่าถ้าเป็นแบบนี้คงจะต้องหาตัวช่วยอย่างอื่นแล้วหล่ะคะ เลยเข้าไปหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตดูค่ะ เจอหลายตัวมากๆ ทั้งยาลดน้ำหนัก กาแฟลดน้ำหนัก อาหารเสริมเอยๆ เยอะมากกกก แต่ไปเจออยู่ตัวหนึ่งที่ตัดสินใจเลือกนั่นก็คือ Happy Burn (แฮปปี้เบิร์น) ตัวนี้นี่แหละค่ะ



เหตุผลหลักๆที่เลือกตัวนี้นะคะ คือเข้าไปเห็นรีวิวเยอะมาก ทั้งในแฟนเพจแล้วก็อินเตอร์เน็ต ที่สำคัญคือเข้าไปอ่านข้อมูลของสินค้าแล้วรู้สึกมันแตกต่างจากหลายๆแบรนด์ที่อ่านมา คือ มันจะมีส่วนผสมหลักๆ คือข้าวญี่ปุ่น แอลคานิทีน ชาเขียว โสม สาหร่ายลามินาเรีย ที่ช่วยในเรื่องเผาผลาญได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องอดอาหารให้น้ำลายไหลเลยทีเดียวค่ะ




      ไอ่ตัวนี้ตอนที่เราซื้อมาตอนนั้นมันเป็นช่วงโปรโมชั่น ราคา 950฿ (ปกติราคากล่องละ 1150฿) มันจะมี 30 แคปซูลต่อ1กล่องนะคะ ทานได้1เดือน วิธีการทานตามที่ข้างกล่องบอกก็คือจะทานก่อนหรือหลังอาหารก็ได้นะคะ เพราะมันช่วยเพิ่มพลังการเผาผลาญ แต่สำหรับเรา เราทานวันละ 1 แคปซูล หลังอาหารเที่ยง เพราะตอนแรกที่ทานก่อนอาหารเที่ยงรู้สึกคลื่นไส้ ซึ่งได้ถามทางแบรนด์ไปแล้วเพราะแอบกลัว ทางแบรนด์ก็บอกว่า การทานตอนท้องว่างทำให้การดูดซึมจะได้ประสิทธิภาพ แต่ในบางคนอาจจะมีอาการระคายเคือง เช่น คลื่นไส้ แต่การเปลี่ยนมาทานหลังอาหารก็เห็นผลเหหมือนกันค่ะ เราก็เลยประทับใจไปอีกหนึ่ง เพราะทางแบรนด์ดูแลดีและให้คำปรึกษาตลอดเลย

     นอกจากบริการที่ประทับใจแล้ว แบรนด์นี้ยังอยู่มานานถึง9ปีและมีรางวัลการันตรีด้วยนะคะ




     ตอนนี้เราทานมาได้2เดือนกว่าแล้วค่ะ ลืมทานบ้างไม่ทานบ้าง ถึงไม่ได้อดอาหาร ไม่ได้ออกกำลังกาย แต่ตอนนี้น้ำหนักก็ลดแล้ว จากเมื่อก่อน 52 ตอนนี้เหลือแค่ 47 แล้วค่ะ ถือว่าประทับมากๆค่ะ และตอนนี้ก็คาดว่าจะทานต่อเรื่อยๆ เพราะถึงแม้จะมีแฟนแล้ว แต่เราก็ไม่ควรปล่อยเนื้อปล่อยตัวเนอะ ^^


    เพื่อนๆคนไหนที่สนใจนะคะ สามารถเข้าไปดูข้อมูลหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ https://www.facebook.com/happie.asia/ หรือ Facebook : @happie.asia ได้เลยนะคะ
 
อ่านมาถึงตรงนี้ เราก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ทุกคนที่มาอ่านนะคะ เพื่อนๆคนไหนที่สงสัยตรงไหน ก็สอบถามเราได้นะ ส่วนคนไหนที่สนใจ เดี๋ยวเราทิ้งช่องทางที่เราซื้อไว้ให้เลย เป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่กำลังตั้งใจลดน้ำหนักนะคะ มันไม่ยากหากเราตั้งใจจริงๆ สู้ๆค่าาา

วันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

Review สบู่ดูโอ้ไวท์ ราคาแค่นี้กับผลลัพธ์เกินคาด

เสียงลือเสียงเล่าอ้าง…….อันใด พี่เอย
เสียงย่อมยอยศใคร……….ทั่วหล้า"
             เสียงกระซิบ ซุบซิบๆ แว่วมา เย้ยยยยย สวัสดีค่ะพ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอาเพื่อนฝูงทุกคน (เล่นใหญ่ทำไม555) พบกับข้าวขิงคนเดิม เพิ่มเติมคือชอบเผือก อิอิ เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า ขิงแอบไปได้ยินกลุ่มรุ่นน้องแถวๆ มหาวิทยาลัยเขาพูดเรื่องเกี่ยวกับสบู่ตัวขาว ที่ทั้งถูกทั้งดีและยังเป็นที่นิยมในตอนนี้อีกด้วย แหมๆ ได้ยินแบบนี้ถึงกับต่อมเผือกกระตุกเลยค่าาา ก็เลยไปเองสืบมา (นึกว่าตัวเองเป็นโคนัน) ว่าไอ่สบู่ตัวที่ว่านี่คือสบู่อะไร ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่เกินความสามารถขิงหรอกค่ะ ฮุๆๆ เพราะในที่สุดก็รู้จนได้ ว่าเจ้าตัวนี้มันชื่อว่า "สบู่ดูโอ้ไวท์" นั่นเอง พอรู้แบบนี้ต่อมประสาทความอยากรู้อยากลองก็กระตุ้นทันทีเลย อยากรู้มากๆ ว่ามันจะดีดั่งคำเล่าอ้างกันหรือเปล่า เลยตัดสินใจสั่งซื้อ และมารีวิวให้ดูกันไปเลยจ้าาา เพราะคิดว่าคงมีใครอีกหลายๆคนที่กำลังตัดสินใจจะซื้อหรือยังมีความลังเล เพราะฉนั้นรีวิวนี้อาจช่วยคุณตัดสินใจได้ ตามไปดูกันเลยยยย



  ม่ะ!!!! จัดมาสักก้อนหนึ่งก่อน เจ้าสบู่ดูโอ้ที่ว่าหน้าตามันก็เหมือนที่เห็นในรูปนะคะ ชื่อเต็มๆของมันก็คือ "ชโลม Duo white carrot papaya soap" (ชื่อยาวไปไหน) ซึ่งขิงไปได้ตัวนี้มาจากในแฟนเพจ
 www.facebook.com/charomesoap ขนาด 100 กรัม ในราคา 95฿ อื้อหืออออ ถือว่าถูกมากๆนะถ้าเทียบกับสบู่ตัวขาวแบรนด์อื่นๆที่เคยเห็น (ในใจก็แอบคินนะ ถูกขนาดนี้จะดีจริงไหมน๊อ555)


               สรรพคุณตามที่รู้ๆมาและอ่านจากหลังกล่องนะคะ มันเป็นสบู่ฟอกผิวขาวที่มีสารสกัดของแครอทกับมะละกอ (อ่าๆ มันได้ๆ) ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี เอ และสารต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจน ผลัดเซลล์ผิวที่ตายให้หลุด ให้ผิวชุ่มชื้น เต่งตึง ชะลอความแก่ และขาวกระจ่างใสมีออร่าอีกด้วยค่า



                  มาดูสิ่งที่อยู่ด้านในกล่องกันต่อเลยนะคะ สบู่จะเป็นก้อนสีส้มๆ เนื้อแข็งและแน่นมาก (ทำให้ไม่ละลายไวและหมดง่ายๆ) ขนาดใหญ่เต็มกล่องจริงๆ ไม่มีโกงปริมาณค่ะ สิ่งที่ชอบมากที่สุดคือเรื่องกลิ่นคะ นี่ขนาดยังไม่ได้แกะซองนะ กลิ่มหอมแตะจมูกเวอร์ อารมณ์คือบับ ชวนให้จิตนาการว่าเวลาอาบน้ำมันจะหอมแค่ไหนงี้ง่ะ อิอิ 


         
เอาหล่ะค่ะๆ สาธยายอะไรมาเยอะละ เรามาเริ่มทดลองใช้กันเลยดีกว่า วิธีใช้ก็โครตจะง่ายแสนง่ายค่ะ ใครใช้ไม่เป็นถือว่าอาบน้ำไม่เป็น (ฮ่าๆๆ) แค่ฟอกๆถูๆ เวลาอาบน้ำ แล้วล้างออก แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จสับ เอ่อ!! ลืมบอกเลยค่ะ ว่าใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกายนะคะ 
  



                     จากคำเล่าอ้างได้กล่าวไว้ว่าตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ เราก็จะสามารถสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจความเปลี่ยนแปลงของมันเลย เพราะฉนั้นขิงขอทดลองเฉพาะขาข้างเดียวของขิงก่อนนะคะ (ข้างซ้าย) จะได้เห็นกันจะๆไปเลย ว่าจะเห็นผลแต่ครั้งแรกหรือเปล่า 

 

     ตามภาพเลยจ้าา แอบอึ้งเบาๆ ไม่คิดว่าสบู่ราคาแค่ 95฿ จะทำผลลัพธ์ที่เกินคาด คือใช้ไปครั้งแรกมันรู้สึกขาวใสขึ้นในระดับหนึ่งเลย แถมผิวยังเนียนนุ่มอันนี้ขอชื่นชม และอีกเรื่องที่ชอบมากๆๆๆ คือกลิ่นค่ะ หอมละมุน รู้สึกสบายสุดๆจ้าาา


เรามาว่าด้วยเรื่องผลลัพธ์หลังจาก1สัปดาห์หลังใช้นะคะ
สิ่งที่ประทับใจ
1.เรื่องราคาของสบู่ค่ะ ที่ถูกมากๆ แต่คุณภาพเกินคุ้มจริงๆ
2.ผิวดูกระจ่างใสขึ้นเรื่อยๆจริงๆ อาจจะได้ขาวแบบพุ่งปรี๊ด ขาวเวอร์ แต่ยอมรับว่าผิวมันสุขภาพดีขึ้นมาก หากใช้ต่อเนื่องรับรองได้เลยว่าเห็นผลต่างกว่านี้แน่นอน
3.ใช้แล้วผิวไม่แห้ง ไม่ลอกเป็นขุยเหมือนบางแบรนด์ที่เคยใช้ 
4.กลิ่นหอมน่ากิน แถมยังหอมติดตัว อาบน้ำทีไรโครตฟินอ่ะพูดเลย อิอิ
5.ก้อนใหญ่ซะใจ ไม่หมดไว ไม่ละลายน้ำง่าย ชอบบบบ

สิ่งที่ไม่ค่อยระทับใจ
เอาตรงๆนึกไม่ออก เพราะส่วนตัวชอบหมด 5555 เอาเป็นว่า ข้อเสียก็ข้ามมันไปเด้อค่าเด้อ




                     สรุปเลยละกันนะคะ ถ้าเป็นขิงให้คะแนนก็ 10เต็ม10 ไปเลยยยย ก็อย่างที่บอกไปว่าสำหรับขิง มันโอเคตั้งแต่เรื่องของราคาแล้ว พอได้ลองใช้มันก็ยิ่งชอบ เพราะคุณภาพ คุ้มค่าเกินราคาจริงๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบและสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วยนะคะ มันต้องลองอ่ะถึงจะรู้ ของแบบนี้ไม่ลองไม่รู้จริงๆ 5555 ส่วนคนไหนที่ชื่นชอบก็ไปหาจับจองกันได้เลย รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนนาจาาาา




                        อ่านมาจนถึงตรงนี้ก็หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่เข้ามาอ่านได้ไม่มากก็น้อยนะคะ ขอบคุณที่ติดตามรับชม อยากให้รีวิวตัวไหนให้อีก ส่งข่าวกันมาได้เลยค่ะ เดี๋ยวว่างๆจัดให้แน่นอนเด้อนางเด้อออออ

วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

รีวิว Prink Snail Premium Gold Mask ดีจริงหรืออิงกระแส!!!


             

           สวัสดีค่ะทุกคน ข้าวขิงคนเดิมเพิ่มเติมคือหน้าโทรมมากกกกก 555 ก็หลังจากที่ห่างหายไปนาน ไม่ได้ไปไหนค่ะ แอบไปเล่นละครเวทีมา เลยไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาทักทายเพื่อนๆกันเท่าไหร่ ไหนๆวันนี้ก็ได้มีโอกาสเข้ามาแล้ว ก็เลยอยากจะมาทำประโยชน์ให้กับทุกคนไม่มากก็น้อย โดยการมารีวิวผลิตภัณฑ์อยู่ตัวหนึ่งที่กำลังเป็นที่กล่าวขานขนานนามกันในตอนนี้ว่า "คืนเดียวรู้เรื่อง" ได้ยินมาแบบนี้ก็อดใจไม่ได้ค่ะที่จะไปตามหา ว่ามันคืออะไร หาไปหามาก็เจอจนได้ นั่นก็คือ "Prink Snail Premium Gold Mask" เป็นมาร์คที่ใช้มาร์คก่อนนอนโดยไม่ต้องล้างออก เขาว่ากันว่าตื่นมาปุ๊บหน้าใสปั๊บเลย ส่วนตัวขิงเป็นคนไม่ค่อยเชื่อคำโฆษณาอะไรพวกนี้นะคะ เพราะเคยเชื่อแล้วผิดหวังกระจายยยย (ฮึๆ) หลักๆจะลองเองซะมากกว่า อิอิ เอาหล่ะเข้าเรื่อง~ ขิงได้มาร์คตัวนี้จากแฟนเพจของร้านเพจหนึ่ง ในราคา 690฿ อือหื้อออ ถามว่าแพงไหม แพงอยู่นาจาาา ของแพงแบบนี้ไม่ดีให้รู้ไป๊!! เอาเซ่ๆ ว่าแล้วก็จัดมาเลยค่ะ1กระปุก


หน้าตาของมาร์คตัวนี้เป็นสีทองตามรูปนะคะ แพ็คเกจค่อนข้างสวยงามเป็นที่หน้าจับจอง เก๋ไก๋สไลด์เดอร์อยู่ 


ไม่พูดพล่ามทำเพลง เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า นี่เป็นหน้าสดๆก่อนนอนของขิงเองค่ะ จากที่อดหลับอดนอนมาหลายคืนกับการซ้อมละครเวที หน้าที่แย่แล้วก็แย่กว่าเดิม 555


เนื้อมาร์คข้างในเป็นสีขาว กลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ฉุนเหมือนบางแบรน์ดที่เจอมา



พร้อมแล้วก็เริ่มมมมม!!


       เห็นกันจะๆไปแล้วนะคะว่าหน้าขิงในตอนเช้าที่ตื่นมา จะกระจ่างใส และยกกระชับมากขึ้น สังเกตได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลยอ่ะ เต็ม 10 ให้ไปเลย 9.5 (อีก0.5น่าจะมีพายตักครีมเพราะมันชอบเลอะติดไม้ติดมือ อิอิ) ถามว่าแนะนำให้ซื้อไหม? แนะนำค่ะ อาจจะแพงสำหรับใครหลายๆคน แต่ผลลัพธ์ที่ได้คืนมามันคุ้มกับเงินที่เสียไปจริง ล่าสุดไปแอบเห็นว่ามีขายราคาส่งตั้งแต่5กระปุกขึ้นไป เหลือกระปุกละ 480฿ นะ ลองไปหาๆดูในเพจนี้ https://m.facebook.com/Prinkceo/ ซื้อตุนไว้เยอะๆขิงว่าคุ้มกว่าซื้อทีละกระปุกนาจาาาา

หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อคนที่กำลังตัดสินใจจะซื้อนะคะ คุ้มๆๆๆ ไม่ลองไม่รู้ บอกเลยว่า "คืนเดียวรู้เรื่องงงงง"