วันพฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2560
เผยเคล็ดลับหุ่นดี ไม่อดอาหาร เผาผลาญดีเยี่ยม!! Happy Burn
เพื่อนๆคนไหนกำลังมีปัญหาแบบนี้บ้างคะ?? กินจุ น้ำหนักขึ้น ทานยาลดกี่ตัวกี่ตัวก็ไม่ยอมลด ขี้เกียจออกกำลังกาย ไม่อยากอดอาหาร โอ้ยยยย แล้วแบบนี้เมื่อไหร่จะผอมมมมม หยุด!! หยุด!! หยุด!! หยุดความคิดนี้แล้วมาอ่านทางนี้เลยค่าาา วันนี้มีเคล็ดลับดีๆสำหรับหลายๆคนที่คิดว่าจะไม่ผอมมาฝากกัน รับรองได้เลยว่าเริ่ดมากๆ ตามไปดูกันเล้ยยยย
ก่อนอื่นเราต้องบอกก่อนนะคะ ว่าเราก็เป็นคนหนึ่งที่จริงๆไม่ได้เป็นคนอ้วน หรือน้ำหนักเยอะแต่อย่างใด แต่ด้วยความที่เป็นคนกินจุ กินเยอะ และไม่ชอบออกกำลังกาย บวกกับการที่ช่วงนั้นมีแฟนด้วย เลยทำให้ไม่ค่อยสนใจอะไรเรื่องน้ำหนักเท่าไหร่ แต่พอระยะเวลาผ่านไป แฟนก็เริ่มทักค่ะว่า เบาๆบ้างก็ได้นะกินโน่นนี่อ่ะ ดูหน้าดูตัวดิ เริ่มบานออกบานออกแล้ว ตอนนั้นคือหัวใจแตกสลายเหมือนจะหลุดออกมาเลยค่ะ 5555 คือเข้าใจป่ะว่าแบบถ้าคนอื่นทัก มันก็ไม่รู้สึกเท่าแฟนตัวเองทักจริงไหม?? ทีนี้ก็เลยคิดจะลองกินให้น้อยลงค่ะ ละก็ออกกำลังกาย คือทำไปได้ไม่ถึงอาทิตย์อ่ะ ก็ขี้เกียจละ มันไม่ชินที่ต้องมาคุมอาหารโน่นนี่นั่น วุ่นวายยยย ทีนี้ก็เลยมานั่งคิดว่าถ้าเป็นแบบนี้คงจะต้องหาตัวช่วยอย่างอื่นแล้วหล่ะคะ เลยเข้าไปหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตดูค่ะ เจอหลายตัวมากๆ ทั้งยาลดน้ำหนัก กาแฟลดน้ำหนัก อาหารเสริมเอยๆ เยอะมากกกก แต่ไปเจออยู่ตัวหนึ่งที่ตัดสินใจเลือกนั่นก็คือ Happy Burn (แฮปปี้เบิร์น) ตัวนี้นี่แหละค่ะ
เหตุผลหลักๆที่เลือกตัวนี้นะคะ คือเข้าไปเห็นรีวิวเยอะมาก ทั้งในแฟนเพจแล้วก็อินเตอร์เน็ต ที่สำคัญคือเข้าไปอ่านข้อมูลของสินค้าแล้วรู้สึกมันแตกต่างจากหลายๆแบรนด์ที่อ่านมา คือ มันจะมีส่วนผสมหลักๆ คือข้าวญี่ปุ่น แอลคานิทีน ชาเขียว โสม สาหร่ายลามินาเรีย ที่ช่วยในเรื่องเผาผลาญได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องอดอาหารให้น้ำลายไหลเลยทีเดียวค่ะ
ไอ่ตัวนี้ตอนที่เราซื้อมาตอนนั้นมันเป็นช่วงโปรโมชั่น ราคา 950฿ (ปกติราคากล่องละ 1150฿) มันจะมี 30 แคปซูลต่อ1กล่องนะคะ ทานได้1เดือน วิธีการทานตามที่ข้างกล่องบอกก็คือจะทานก่อนหรือหลังอาหารก็ได้นะคะ เพราะมันช่วยเพิ่มพลังการเผาผลาญ แต่สำหรับเรา เราทานวันละ 1 แคปซูล หลังอาหารเที่ยง เพราะตอนแรกที่ทานก่อนอาหารเที่ยงรู้สึกคลื่นไส้ ซึ่งได้ถามทางแบรนด์ไปแล้วเพราะแอบกลัว ทางแบรนด์ก็บอกว่า การทานตอนท้องว่างทำให้การดูดซึมจะได้ประสิทธิภาพ แต่ในบางคนอาจจะมีอาการระคายเคือง เช่น คลื่นไส้ แต่การเปลี่ยนมาทานหลังอาหารก็เห็นผลเหหมือนกันค่ะ เราก็เลยประทับใจไปอีกหนึ่ง เพราะทางแบรนด์ดูแลดีและให้คำปรึกษาตลอดเลย
นอกจากบริการที่ประทับใจแล้ว แบรนด์นี้ยังอยู่มานานถึง9ปีและมีรางวัลการันตรีด้วยนะคะ
ตอนนี้เราทานมาได้2เดือนกว่าแล้วค่ะ ลืมทานบ้างไม่ทานบ้าง ถึงไม่ได้อดอาหาร ไม่ได้ออกกำลังกาย แต่ตอนนี้น้ำหนักก็ลดแล้ว จากเมื่อก่อน 52 ตอนนี้เหลือแค่ 47 แล้วค่ะ ถือว่าประทับมากๆค่ะ และตอนนี้ก็คาดว่าจะทานต่อเรื่อยๆ เพราะถึงแม้จะมีแฟนแล้ว แต่เราก็ไม่ควรปล่อยเนื้อปล่อยตัวเนอะ ^^
เพื่อนๆคนไหนที่สนใจนะคะ สามารถเข้าไปดูข้อมูลหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ https://www.facebook.com/happie.asia/ หรือ Facebook : @happie.asia ได้เลยนะคะ
อ่านมาถึงตรงนี้ เราก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ทุกคนที่มาอ่านนะคะ เพื่อนๆคนไหนที่สงสัยตรงไหน ก็สอบถามเราได้นะ ส่วนคนไหนที่สนใจ เดี๋ยวเราทิ้งช่องทางที่เราซื้อไว้ให้เลย เป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่กำลังตั้งใจลดน้ำหนักนะคะ มันไม่ยากหากเราตั้งใจจริงๆ สู้ๆค่าาา
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น